จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง ไทย-กัมพูชา ทางด้านสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นาย ฌอน โอนีล ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย คนใหม่ ได้ขึ้นกล่าวในการพิจารณารับรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ
ซึ่งเมื่อเขาถูกถามถึงการสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชาที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 5 วัน เขาได้บอกว่า “จะชี้แจงให้กรุงเทพฯ ทราบอย่างชัดเจนว่า การปะทะกันบริเวณชายแดน
เช่นการปะทะกับกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้นั้น ส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนชาวไทยเอง และจะส่งผลกระทบต่อความเป็นพันธมิตรระหว่างไทย และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ นาย ฌอน โอนีล เคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่การต่างประเทศประจำประเทศไทย และเคยดำรงตำแหน่งนักการทูตในประเทศไทยมาแล้วถึงสองครั้ง
เมื่อถูกถามว่า เขาจะดำเนินการอย่างไรเพื่อเปลี่ยนการหยุดยิงให้เป็นสันติภาพระยะยาว โอนีล กล่าวว่า ว่า “ผมคิดว่าสิ่งแรกที่ผมจะทำคือ การชี้ให้ประเทศไทย
ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรตามสนธิสัญญาเพียงไม่กี่ประเทศในเอเชีย ได้เห็นว่าสงครามเช่นนี้ ความขัดแย้งเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยประชาชนของพวกเขาเลย
“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรของเรา พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญ
พวกเขาได้ทำในสิ่งที่เป็นเพียงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่จำเป็น”ท่าทีของนาย โอนีล มีขึ้นหลังจากที่ ผู้นำไทยและกัมพูชาได้พบกันที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันจันทร์
และตกลงหยุดยิงเพื่อยุติความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ ‘ทรัมป์’ ได้เตือนรัฐบาลทั้งสองประเทศ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะไม่คืบหน้า หากการสู้รบยังคงดำเนินต่อไป
นอกจากนั้น โอนีลยังกล่าวถึง ‘พม่า’ ด้วยว่าประเทศไทยไม่ควรให้ความชอบธรรมแก่รัฐบาลทหารในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา
เขาตั้งข้อสังเกตว่า จุดยืนของกระทรวงการต่างประเทศคือ การขัดขวางการเลือกตั้งที่ “หลอกลวง” ที่คณะทหารเมียนมากำลังวางแผนไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
เขากล่าวว่า “หากได้รับการยืนยัน ผมขอสนับสนุนให้ประเทศไทยไม่รับรองการเลือกตั้งที่ไม่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50% ของประเทศ ในขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านส่วนใหญ่ถูกจำคุก”